สอบถาม พูยคุย ปรึกษา IM

รับสอนงาน Internet Marketing สอนทำ Amazon, Adsense, Youtube อื่นๆ ครับ

ถ้าสนใจติดต่อผมได้ที่ www.facebook.com/Numl3ers  (อินบ็อคหรือแอดเพื่อนมาได้เลยครับ) ก็นั่งทำงานอยู่ทุกวันอ่ะนะครับ มีเวลาว่างบ้างจากก...

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

ข้อคิด สาระเล็กน้อยสำหรับผู่ที่อยากจะเริ่มทำอีคอมเมิร์ชหรือดรอปชิบ by Numl3ers

วันนี้มีเรื่องอยากจะถ่ายทอดให้เพื่อนๆได้นำไปใช้ในการทำธุรกิจหรือเริ่มต้นทำอะไรครับ มีเวลาว่างนิดหน่อยก็เลยพิมพ์ครับ





ข้อคิด สาระเล็กน้อยสำหรับผู่ที่อยากจะเริ่มทำอีคอมเมิร์ชหรือดรอปชิบ by Numl3ers


แนะนำตัวเองก่อน ตอนนี้ผมก็ทำอีคอมเมิร์ชครับ พูดง่ายๆก็ขายของออนไลน์นี่แหละ และมีหน้าร้านครับ ประสบการ์ณด้านนี้ ด้วยตัวเองราวๆสองปีครับ เมื่อก่อนขายตลาดนัดเป็นธุรกิจครอบครัวครับ แต่ก็ไม่ได้มาทางออนไลน์เท่าไหร่ ก็มีบ้างแต่ไม่ได้จริงจังครับ มาจริงจังช่วงหลังๆนี่เอง
คอมเมิรชบ้านเราการแข่งขันสูงครับ กำลังซื้อก็ถือว่าพอสมควรในบางชนิดสินค้า
หากว่าคิดจะเริ่มหรืออยากทำด้านนี้ มันมีอะไรที่ควรจะรู้บ้างผมจะบอกครับ  



ทุน - สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดครับ การมีสินค้าจำนวนนึงนั้นต้องมีทุนหากไม่ใช่ดรอปชิบครับ ในแง่ของต้นทุนสินค้า การมีทุนมาก ก็จะได้สินค้าราคาส่งที่ต่ำกว่าครับ ด้วยปริมาณการซื้อที่จำนวนสูงตามไปด้วยเช่นกัน ผมยกตัวอย่างการนำเข้าสินค้าชนิดนึง ที่ 10 ชิ้น 50 บาทต่อชิ้น 50 ชิ้น ก็จะได้อีกเรตนึงที่ถูกลงมาอีก ไม่ต่องพูดถึงระดับยกลังหรือมากกว่านั้นครับ ต้นทุนราคาส่งก็จะถูกลงมาเช่นกัน แต่ก็ไม่ทุกอย่างไปนะครับ บางสินค้า ก็ได้เรตราคาส่งต่ำที่สุดตั้งแต่ไม่กี่ชิ้น อันนี้ก็แล้วแต่ผู้ผลิตนะครับ  ทุนในอีกมุมนึง คือเพื่อการตลาดครับ การโปตโมต ลงโฆษณา เบื้องต้นเราทำเองได้ครับไม่ต้องใช้ทุนมากมายนัก แต่ผลตอบรับมันจะสู้คนมีทุนสูงๆคนละแบบครับ จะขายอะไรก็ตามแต่ครับ หากเรามีทุนก็พอจะไปสู้รบปรบมือกะเจ้าตลาดเดิมได้บ้างครับ

ศึกษาสินค้า หรือรีเซริจตลาด - เรื่องสำคัญมากอย่างนึงครับ คนหาของมาขายมีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบครับ พบเห็นได้ตามเฟสเลย เครื่องสำอางค์ยันเครื่องมือช่าง หรือของกินมีแทบทุกอย่างครับ ก่อนที่จะคิดขายอะไร อยากให้ลองสำรวจดูก่อนครับ มีประโยนช์มากเลย สมมุติสินค้าตัวนึง มีกำลังต้องการของตลาดสูงมาก และมีผู้ขายน้อย เรื่องราคาโดยรวมก็อยู่ในแนวโน้มได้กำไรพอสมควร ถึงค่อยตัดสินใจทำครับ หรือไม่ก็กรณีพิเศษ เรารู้ว่ามีตลาดเฉพาะของสินค้าตัวนี้ ก็ข้ามขั้นตอนไปได้ครับ อย่างเช่นเครื่องสำอาง มีกลุ่มแม่บ้านหรือสาวๆออฟฟิสที่พูดคุยกันในกลุ่มอยู่แล้ว มีความต้องการอยู่แล้วอันนี้จะสบายหน่อยครับ ไม่ใช่ว่าอยากจะขายอะไรก็ขายได้เลย มันก็ขายได้แหละครับ แต่จะได้กำไรคุ้มค่าไหมนั่นอีกเรื่องครับ พยามยามศึกษากลุ่มลูกค้าด้วยก็ดีครับ บางทีมันเป็นเทรน เทรนจะมาเร็วไปเร็ว มายาวๆ หากเราคลุกคลีอยู่กับมันก็จะพอรู้บ้างครับ



คู่แข่งทางการค้า - แหม่ จะบอกว่าอย่าไปกลัวก็ไม่ได้ บางทีต้องกลัวครับ เมื่อก่อนผมก็ตาสีตาสาแหละ พอผู้ขายเยอะขึ้น การแข่งขันย่อมสูงขึ้นครับ แต่พอมีแล้วก็ต้องสู้กันไปตามสมควรครับ แต่ถ้าเราศึกษาเค้าหรือคนรอบๆไว้ก่อนแล้วจะดีมากครับ อย่างเช่นว่า สินค้าชนิดเดียวกัน เค้าขายอยู่ห้าร้อยนะ เราก็ควรจะขายราวๆนั้นแหละครับ แต่ต้องดูด้วยว่าเราคุ้มไหม บางทีลงไปแข่งด้วยแล้วไม่ได้อะไรเลยก็อย่าดีกว่า ของผมเคยมีเคสนึง มีการแข่งขันเรื่องราคาสินค้าตัวนึง ซึ่งปกติตลาดจะอยู่ที่ 600 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 450 นี่คือราคาส่งมารตฐานและราคาขายปลีกทั่วไปนะครับ แต่มาวันนึง เค้าอยากจะขาย 450 เราจะทำยังไงละครับ (พวกล่อเท่าทุนเลย) ยอมรับว่าก็เครียดครับ เพราะสต็อกไว้อยู่นิดหน่อย แต่ก็นั่นแหละครับ คนซื้อเค้าก็ไม่ได้เสาะหาของถูกที่สุดอย่างเดียวเสมอไปครับ บางทีก็ด้วยคุณภาพและบริการของคนขายด้วยก็มี หรือด้วยเหตุผลอื่นก็มีครับ อย่างเช่นว่า คนขาย 450 ขายหมดไว แต่ตลาดยังต้องการอยู่ 600 เค้าก็ซื้อครับ แต่จะขายช้ากว่าแค่นั้นเอง บางทีผมก็ลดนะ แต่ก็ไม่ลดถึงขนาดนั้นครับ แตทั้งนี้ทั้งนั้นมันมีเรื่องอื่นเกี่ยวด้วยเสมอครับ เช่นต้นทุนสินค้าที่ต้องจมลงไปชั่วคราว หรืออาจจะยาวเลยก็ได้ มันน่าหนักใจอยู่ครับ คนมีทุนหนาๆบางทีรวยแล้วนะหล่ะ เราซื้อ เค้าซื้อของชนิดเดียวกัน แต่เค้าซื้อราคาส่งที่1000ชิ้น เราซื้อราคาส่งที่ 50 ชิ้น ต้นทุนต่างนี่ก็เอาเรื่องแล้วครับ การ Sale ลดราคา เค้าทำได้มากกว่า แต่หากสินค้าขายไม่ดี เค้าก็จะจมทุนสาหัสกว่าเรา มีทั้งดีและไม่ดีครับ




ไอข้างบนๆที่พิมพ์ๆนั่นก็นึกหัวข้อไม่ออกแล้วครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมพิมพ์ยาวๆแล้วลองไล่เรียงกันดูนะครับ




ขายของออนไลน์เป็นอะไรที่สนุกครับ สนุกเลยแหละมีออเดอร์เยอะๆแพ็คของส่ง มีลูกค้าประจำที่สั่งอยู่เรื่อยๆ คือได้เห็นกระแสเงินกับกำไรใครหล่ะจะไม่ดีใจครับ 5555 ทุกวันนี้ช่องทางการขายเยอะมากเหลือเกินครับ จะเฟสบุค จะยูทูป หรือเว็บขายดี บาลเบอะจริงๆ แต่คนที่ขายดีจริงๆเนี่ยมันไม่มากนักหรอกครับ บางคนอาจจะโชคดีหน่อยเข้ามาก็ตูมๆขายดีเลยก็มีครับ กลับกัน คนขายไม่ได้เลยมันก็มี
มันก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ บางคนก็ล้มเลิกไป บางคนก็ฝืนทำต่อไป จะบอกว่าหากไม่มีประสบการ์ณเลยทางด้านนี้ หรือไม่รู้อะไรเลย สาหัสครับ ด้วยเวลาเนี่ยแหละบางทีมันก็สอนเราเองครับ ไม่ก็เราไปขวนขวายหามันมา ครอบครัวผมและผมเองเคยขายของตลาดนัดครับ ก็ขายดีแหละขายเสื้อผ้าผญครับเมื่อก่อน ก็ขายอยู่เกือบๆ 10 ปีได้ครับ แต่ก็ถึงจุดสิ้นสุดเพราะตลาดฝืด ขายยาก กำลังซื้อน้อยลงมาก คู่แข่งเต็มตลาดไหนจะเรื่องราคาอีก ช่วงแรกๆกระแสเดรสเกาหลี ชุดแฟชั่นก็อปปี้ อะไรพวกนี้ร้านผมมีหมด ขายได้วันละเป็นหมิ่นด้วยกำไรครึ่งต่อครึ่ง แน่นอนครับ ก็มีคนทำตามจนเต็มตลาด ของจีนเพียบ จนขายได้วันละไม่กี่พันบาทด้วยกำไรที่น้อยลงกว่าเดิมหลายเท่า แล้วก็ถึงจุดเปลี่ยนครับ โละขายเสื้อผ้าทั้งหมด เคลียแรนส์เซลเลย เปลี่ยนโปรดักไปเปลี่ยนของแต่งบ้าน งานแฮนด์เมด ก็กลับมาดีขึ้นครับ แต่ด้วยเศรษกิจ เราก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามนั้นครับ จนมาถึงสินค้าอย่างสุดท้ายที่ขายอยู่จนปัจจุบันนี้ครับ เวลากับเศรษกิจมันสอนเราจริงๆครับ แต่ก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนด้วยนะครับ หรือถ้าไม่กล้า ก็ต้องพัฒนาของเดิมให้ดีขึ้นครับ ดีพอที่จะแข่งขันกับคนอื่นๆได้

ตอนแรกๆเราก็รับตัวแทนช่วยขาย รับดรอปชิบมาช่วยโปรโมต แต่ก็ได้รู้เพิ่มครับว่าบางคนสักแต่จะทำโดยไม่รู้อะไรเลยก็มีครับ ไม่รู้แม้กระทั่งของที่จะขาย = = (แล้วจะเอาไปขายได้หรอฟะ)
สิ่งที่อยากจะเล่าก็มีราวๆนี้ครับ แต่ถ้าอยากปรึกษาอยากคุย ก็อินบ็อกได้เลยครับ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หรือช่วยกันขาย เป็นสิ่งดีครับ เมื่อก่อนผมเป็นพ่อค้า-แม่ค้าตัวเล็กๆที่ขายของไปวันๆ หมดก็ไปรับมาใหม่ ไม่ได้อะไรครับ ได้กำไรก็หมุนๆไปใช้จ่าย ลงของเพิ่ม ปัจจุบันนี่คุยได้คุย ต่อได้ต่อ หาประโยชน์ให้ได้มากที่สุด บางครั้งก็คุยกับผู้ผลิตเลยด้วยซ้ำไปครับ จะบอกว่าผู้ผลิตสินค้า หรือผู้ขายส่ง เขาก็ต้องการขายเหมือนกันนี่ละครับ บางทีคุยกันได้ทางออกที่ดี แฟร์ๆ เราขายดี เค้าก็ได้ขายส่งให้เรา แถมบางทีก็ได้ราคาส่งที่ถูกโดยที่ไม่ต้องซื้อตามจำนวนอีก แหะๆ 
แนะนำอื่นๆครับ จริงๆก็อยากจะพิมพ์มากกว่านี้ แต่บางทีก็นึกไม่ออกจริงๆครับ
เรื่องราคาเนี่ย ต้นทุนไม่เท่ากัน กำไรที่คิดก็ไม่เท่ากันทุกคนครับ เพราะงั้นให้คิดว่า ทำแบบไหนแล้วมันดีต่อเราและธุรกิจของเราครับ อย่างของผมเองเน้นแบบ ควิ๊กเซลซะมากกว่า คืออยากให้ขายออกไว กำไรนิดหน่อยก็พอ แต่บางสินค้าที่ต้องใช้ทุน การแข่งขันน้อย ก็บวกไปมากกว่าเดิมครับ อย่าคิดมากหากราคาของเราต่างกับคนอื่น ให้เพิ่มเติมเงื่อนใขเข้าไป เช่นการลดราคาเป็น % การแถมอะไรเล็กๆน้อยๆ เช่นส่งของฟรี  คิดทางที่ดีที่สุดครับ แต่ก็ใช่ว่าราคาจะสุดโต่งแพงกว่าชาวบ้านทั้งหมดเลยมันก็ไม่ใช่นะงั้น 555 



เป็นพ่อค้าแม่ค้าต้องทนหน่อยครับ เจอลูกค้าร้อยแปดพันเก้า มาทุกรูปแบบจริงๆบางทีมาเหมือนกับของแจกฟรี ก็คุยกับลูกค้าเอาครับ คุยไม่ไหวก็บายจ้าเลย 
ตลาดที่น่าสนใจตอนนี้ก็มีเยอะครับ ผมยังมองไปถึงอนาคตเลยหากมีทุน อยากจะทำร้านของสะสม เพราะมันมีคุณค่าของมันในตัวครับ ของบางอย่างกาลเวลาก็ทำให้ราคามันสูงขึ้นด้วยตัวเองครับ แต่ใช่ว่าต้องรอหลายปีนะครับ พอดีทุนทับตัวเองตายก่อน ก็ต้องมีอย่างอื่นที่มันหมุนเวียนด้วยแหละครับ ยกตัวอย่างง่ายๆเลย ร้านกระเป๋า จะขายแต่ระดับบนๆ ใบละแพงๆอย่างเดียวก็ไม่ดีครับ กว่าจะขายออกแต่ละใบ ถึงกำไรจะคุ้มก็เถอะ เผลอๆใบถูกๆจำนวนใบที่ขายไปมากกว่าอาจจะได้กำไรมากกว่าหลายเท่าตัวก็เป็นไปได้ครับ

เรื่องทิ้งท้ายก็เป็นประสบการ์ณและความรู้หล่ะครับ อยากให้หาข้อมูลมากๆครับ ไม่ก็เสาะหาความต้องการครับ มีกำลังซื้อก็หมายถึงกำไรครับ อีกประการนึง พูดคุยปรึกษาเพื่อนๆหรือผู้ขายอื่นๆ เพื่อรับทราบถึงปัญหา หรือบางทีอาจจะได้อะไรดีๆกลับมาก็ได้ครับ ผมพิมพ์อะไรผิด ตกหล่นยังไงขอโทษด้วยนะ อีคอมเมิร์ชยังเปิดกว้างสำหรับคนไทยนะผมว่า สู้ๆครับ

Content is King บทความดีๆเนื้อหาดีๆถือเป็นที่สุดแล้วหรือเปล่า ?




วันนี้จะมาพูดเกี่ยวกับ บทความ หรือตัว Content ต่างๆครับ ตามหัวข้อเลยแล้วกัน บทความหรือเนื้อหาดีๆทีว่าดีที่สุดแล้วหรือไม่ ขอตอบเลยว่าไม่ครับ แต่ก็มีความสำคัญมากสุดๆเลยเหมือนกันในหลายๆมุมนะครับ เอาเป็นว่า เนื้อหาที่ดี บทความดีๆเนี่ย มีผลต่อ SEO 70-80% เลยละครับ แล้วอีก 20-30% ที่เหลือหล่ะ ? ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีกครับ เช่นว่า ไม่ซ้ำใคร ถูกใจทั้งระบบค้นหา ถูกใจทั้งคนอ่าน (ซึ่งก็มีปลีกย่อยไปอีกครับ)

หากคุณเป็นคนใช้ Google ค้นหาอะไรอยู่บ่อยๆนะครับ ไม่แปลกเลยที่เราค้นหาไปเจอสิ่งที่เราต้องการในลำดับแรกๆ หรือบางทีก็ไม่เป็นอย่างนั้น ซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับ Keyword ครับ ในบทความนึงอาจจะมี Keyword ที่เราค้นหาหลายคำ หรือตรงตัวกับคำค้นหา มันก็จะแสดงผลเป็นอันดับแรกก่อนเสมอ แต่ใช่ว่าเหมือนกันแล้วจะต้องเจอทุกเว็บนะครับ มันก็จะเจอเว็บที่เนื้อหาทำออกมาแรกสุด หรือต้นฉบับนั่นเองครับ ซึ่งเว็บอื่นๆอาจจะลอกมา หรือดัดแปลง หรือเขียนมาช้ากว่าอีกทีนึง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ยูสเซอร์ด้วยนะครับ บางทีติดค่าค้นหาอันดับต้นๆด้วยระบบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อันดับหายไป จะบอกว่ายังไงดี บางทีระบบอาจจะกำหนดค่าให้ก่อน แล้วพิจารณาอีกครั้งด้วยผู้เข้าชม ทราฟฟิค ระยะเวลาที่ใช้อยู่กับบทความนั้นๆก็บ่งชี้ได้ครับ

Blogger ทั่วๆไปเนี่ย หากบทความมีคุณภาพต่อเรื่องนั้น ต่อ Keyword นั้น ทางระบบจะกำหนดค่าให้อยู่ลำดับต้นๆเสมอครับ หรือเว็บที่มียอดผู้เข้าชมสูงๆอยู่แล้ว อันนั้นก็จะอีกกรณีนึงหรือแล้วแต่หัวข้อก็ว่ากันไปครับ

เพราะฉนั้นแล้ว การเขียนบทความดีๆมีคุณภาพซักบทความนึง อาจจะใช้เวลามากหน่อย แต่ทว่าผลลัพท์ที่ได้กลับมาก็ดีตามไปด้วยครับ จึงอยากแนะนำกับผู้ที่เขียนบทความ ทำบล็อคเกี่ยวกับเนื้อหาใดๆ อยากให้ทำบทความที่มีคุณภาพดีเสมอครับ เผื่อผลต่ออันดับหรือสาระที่ผู้เข้าชมจะได้ไปด้วย หรือเพื่อเหตุผลของผู้เขียนเองอันนั้นก็ว่าไปตามเรื่องนะครับ


ส่วนคำว่าคุณภาพหรือดี เป็นยังไง ให้ลองค้นหาจากกูเกิ้ลด้วยคี์ยเวิร์ดที่ท่านต้องการครับ แล้วดูอันดับต้นๆว่าตรงกันไหม ตรงในแบบที่เราคิดว่าใช้ หรือคนทั่วไปต้องการไหม นั่นแหละครับ คือความหมายของคำว่าคุณภาพ แต่ส่วนปัจจัยประกอบเนี่ย ลองสังเกตุให้มากๆดูนะครับ แล้วนำมาปรับใช้กับบทความของเราเอง แล้ววัดผลหลังจากปรับเปลี่ยนแล้วนะครับ

บทความมีความสำคัญกับอะไรบ้าง ได้ประโยชน์อะไรจากบทความ ?

ตอบสั้นๆก็คงเป็นทราฟฟิค คนเข้าชม คนมาอ่าน ซึ่งต่อยอดไปเป็นอย่างอื่นได้ เช่นขายสินค้า หรือโฆษณาต่างๆครับ



วันนี้ก็มีเท่านี้แหละครับเกี่ยวกับบทความ หากวันไหนมีสาระเพิ่มเติมจะมาโพสอีกนะครับ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

อัพเดตซักหน่อยครับ 11/1/60

เริ่มที่งานส่วนตัวหรือโปรเจคที่คิดจะทำ และทำอยู่นะครับผมม ^_^

         อีคอมเมิร์ช ตอนนี้กำลังไปเรื่อยๆโดยรวมก็ถือว่าดีครับ แต่กำลัง Co งานขายของเนี่ยกับ Youtube และแฟนเพจให้มากขึ้นครับ อีคอมเมิรชเนี่ย ปัจจัยมันไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ เบื้องต้นเลยคือความต้องการของตลาดและกำลังซื้อครับ !! แต่จากนั้นมันจะซับซ้อนและเติมโตเป็นระดับๆของมันเอง เช่นลูกค้าประจำ หรือตัวแทนขาย อะไรแบบนั้นครับ เดี๋ยวจะแจงให้ฟังถ้ามีโอกาสนะครับ




  Youtube เป็นอะไรที่ดูจะง่ายครับ แต่ฐานคนดูนั้นสร้างยากและใช้เวลามากครับ แต่สำหรับคนที่มีแฟนเพจ หรือเฟสบุค หรือกลุ่มเฉพาะด้านเนี่ย ง่ายเลยครับ ปรับสไตล์ให้นิยมหน่อยก็มียอดวิวยอดติดตามขึ้นมาเองเลย ส่วนตัวมีโปรเจคที่จะทำอยู่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในจังหวัดที่ตัวเองอยู่ ก็จะถือกำเหนิดเร็วๆนี้ละครับ แต่คงเริ่มจาก 0 เลยเพราะมีแต่ข้อมูลเท่านั้น ยังไม่ได้ลงมืออัดคลิปใดๆเลยครับ อีกโปรเจคนึงซึ่งเกี่ยวพันกับการขายของเดิมที่ผมทำอยู่แล้ว (อีคอมเมิร์ช) ก็เพิ่งจะลงตัวครับ ส่วนนี้คงมียอดวิวไม่ยาก เพิ่งจะได้กล้องวีดีโอมาเลยแหละ ก็ต้องว่ากันไปครับ




ส่วนสุดท้าย เป็นแอพพลิเคชั่นมือถือ เกมส์มือถือ หรือเอาง่ายๆสั้นๆก็แอพละนะ ก็เรียนกับลองทำมาได้พักใหญ่แล้ว ก็ทำได้ แต่ในการแข่งขันที่สูง ตอนนี้เลยทำไปแก้ใขไปก่อน เอาให้ดีที่สุดค่อยอัพขึ้นสโตรเป็นจริงเป็นจังอีกทีครับ ทีแรกก็คิดว่าจะใช้เวลาไม่มาก แต่ไปๆมาๆแล้ว แอพมือถือแอพนึงเนี่ย ถ้าระบบนิดๆหน่อยๆก็ใช้เวลาพอสมควรอยู่ครับ หลายชั่วโมงเลย แต่ด้วยความที่เรายังใหม่ก็อาจจะมีผลครับ


เกร็ดสุดท้ายก่อนจะจบบทความนี้ อยากจะแนะนำให้ทำสิ่งใดที่ถนัดก่อนนะครับ แต่การจะทำหลายๆอย่างนั้นไม่ด้ห้ามครับ แต่มันจะเห็นผลช้ากว่าที่เคยครับ


อย่าลืมติดตามบล็อคนี้ไว้นะครับ จะมีสาระมาให้บ้างบางครั้งครับ ^^

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

รับสอนงาน Internet Marketing สอนทำ Amazon, Adsense, Youtube อื่นๆ ครับ



ถ้าสนใจติดต่อผมได้ที่ www.facebook.com/Numl3ers (อินบ็อคหรือแอดเพื่อนมาได้เลยครับ)


ก็นั่งทำงานอยู่ทุกวันอ่ะนะครับ มีเวลาว่างบ้างจากการขายของหน้าร้าน และก็เวลาที่ทำงาน IM ทั้งหลาย
หลักการสอนเป็นยังไงบ้าง ก็จะมีพวกความรู้พื้นฐาน SEO การสร้างบล็อค การโพสบทความ หรือการโปรโมตเบื้องต้น แชร์ความรู้ส่วนตัว เทคนิคพื้นฐานต่างๆ สอนแบบจับมือทำนะครับ ถ้าลองเอาชื่อผมไปค้นหาใน Thaiseoboard ก็จะเจอโปรเจคที่เคยสอนอยู่บ้างครับ เคยสอนคร่าวๆก็ Amazon Adsense ครับ โดยเน้นแบบไม่ต้องลงทุน ทำบน Blog ที่ท่านเห็นโพสอยู่นี่แหละครับ ตัวอย่างการสอนคลิ๊ก  เพิ่มเติม

ความรู้ของผู้สอนคร่าวๆเกี่ยวกับ Internet Marketing ส่วนมากจะเป็น Content Creator นะครับ 


Adsense
Amazon Affiliate
Affiliate อื่นๆ
YouTube Partner
Ecommerce ขายของออนไลน์
Kindle direct publishing
Software application , Mobile application
SEO (Search Engine Optimization) เบื้องต้น
และความรู้อีกมากมายจากผู้สอนครับ



ค่าเรียนแพงไหม ? คิดค่าสอน 3500 บาทครับ ไม่มากมาย หากลงมือทำแบบตั้งใจ 100$ นี่ไม่ยากเลยครับ แต่ค่อนข้างใช้เวลานะครับ

การเรียนการสอนใช้ระบบพูดคุยผ่าน Teamspeak 3 ครับหรือ Skype เอาที่สดวกต่อผู้เรียนครับ แต่ผมถนัดอันแรกมากกว่าใช้ง่ายกว่าด้วยครับ

เรียนรายบุคคล หรือจะรวมกลุ่มเพื่อนมาก็ได้นะครับ ค่าสอนก็จะถูกลงนิดหน่อยครับ หลังจากเรียนแล้ว การลงมือทำ การติดตามผลงาน ผมจะดูแลตลอดครับ พูดง่ายๆก็ช่วยเหลือไปตลอดนั่นแหละครับ


สอบถามเพิ่มเติม โทร 0848675600 (บอกด้วยนะครับว่าเกี่ยวกับสอน IM Amazon Adsense )





วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

2017 New Year ทำงานๆๆๆกันนน

บางคนก็นะ ขยันจริงๆจังๆช่วงเวลาพิเศษ หรืออยากจะริเริ่มอะไรใหม่ๆก็นับเวลากันไป

2017 นี้หันมาลองด้านแอพลิเคชั่นดูบ้างครับ ไม่รู้จะทำได้ไหม หรือยังไง เดี๋ยวมาอัพเดตให้ได้ฟังกันนะครับ



แต่เหมือนเงินลอยในอากาศแหละครับ เราทำได้ไหม จับจุดถูกไหม ที่ต้องการด้านนี้ก็วันละ 10$ ก็คงจะพอครับ เทียบกับปริมาณเวลาแล้วคุ้มค่าครับ

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ไม่ได้โพสอะไรนานเลยครับบบ วันนี้ไร้สาระเช่นเคย

ก็มาอัพเดตบ้างครับ ตอนนี้ก็เหมือนที่เคยๆเกริ่นไว้ การทำ IM จริงๆมีพื้นฐานเล็กน้อยก็ไปได้ง่ายครับ หนักหน่อยตรงที่ความขยันละมั้งครับ ใช้แรงน้อย ใช้สมองเยอะ และใช้ความขยันนี่แหละมากหน่อย (ผมขยันนานๆครั้ง แหะๆ)  แต่องค์ประกอบอื่นก็มีครับ เช่นทุน การเริ่มจากศูนย์กับมีทุนเนี่ยต่างกันพอสมควรเลยนะครับ เพราะทุนที่มีจะริเริ่มเสริมสร้างไปได้เยอะกว่าในทุกๆด้าน อันนี้ถึงแม้จะขยนน้อยหน่อย แต่ก็ให้ผลลัพท์ไม่ต่างจากคนที่ไม่มีทุนแล้วขยันมากๆเสียอีกครับ


ก็อยากจะจุดไฟให้ตัวเองบางครั้งเหมือนกันครับ เพราะบางที่ก็เฉื่อยชาเกินไปเหมือนกันครับ นี่ก็จะปีใหม่แล้ว หากอยากลองเปลี่ยนตัวเอง ลองดูช่วงนี้ก็ดีนะครับ ตั้งเป้าหมายให้ชีวิตใหม่ทุกปีๆเป็นเรื่องดีนะครับ

ก็ขอให้โชคดีประสพผลสำเร็จกันทุกท่านนะครับ ขอตัวไปทำงานหยิบๆย่อยๆก่อนครับแหะๆ

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

รีรัน กับ IM อีกซักรอบนึงครับ สู้ๆ ลองดูจนถึง BFD 2016 - 2017 นี่ละกัน

วันนี้ก็ทำการแมพปิ้งโดเมนเก่าๆเพื่อใช้กับ Blogger โพสบทความส่ง Skimlinks แหละครับ เห็นบอกว่าต้องใช้บทความราวๆ 20-30บทความยื่นสมัครไป และต้องโพสระหว่างรีวิวเพื่ออัพเดตด้วยวันละ 3-4โพส


ลำพังบทความทั่วไปคงจะไม่ยากนะครับ รีรท์หรือสปินซักหน่อย แค่ทว่าตอนนี้อยากจะโพสมือมากกว่า บทความนึงที่ตัวอักษรเยอะๆก็นั่งงมนานเหมือนกันครับ เพราะใช้แปลภาษาช่วยซะส่วนมาก ดัดแปลงคำบางคำที่พอเข้าใจ เรียบเรียงใหม่ วุ่นวายดีครับ แต่คิดว่ายูนิคระดับนึงเลย วันนี้ตั้งแต่เช้าก็งมได้ไป 2โพส เหมือนจะขยันเลย 5555+  แต่โพสแรกหนักจริง ตัวอักษรนี่หลายพันเลย

 ตามที่คิดไว้ จะลุยกับ Blogger ครับ ไม่ใช้โฮสหรือโดเมน จะบอกว่าเซพงบก็ไม่ใช่ จริงๆชอบระบบ Blogger ครับ ง่ายดี ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องติดตั้งปลั๊กอินหรืออะไรมากมาย แต่งานมันก็คนละระดับกันนะครับ ความละเอียดมันคงสู้เวิร์ดเพรสไม่ได้ในหลายๆอย่าง แต่พูดถึงความสดวกและง่าย Blogger นี่แหละครับอันดับ 1

 เดี๋ยวมีอัพเดตให้ตลอดนะ แต่คงจะ 2-3วันครั้ง หรือมีอะไรน่าสนใจจะมาโพสเพิ่มเติมให้ครับ ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้โพสเลยแหละ


สุดท้ายนี้ ผมยังจำประโยคช่วงนึงของเพลงในอนิเมะที่ผมชอบดูครับ

No, don't give up on life  This endless dead end

ก็ตามนั้นแหละ 555+ ลอง Re Start ดูครับ เผื่อชีวิตจะได้สนุกๆ